สถานการณ์ทั่วไป ทุเรียนเป็นไม้ผลที่ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง และมีแนวโน้มจะขยายการส่งออกได้อีกมาก จึงถูกกำหนดให้เป็นพืชที่จะต้องเร่งรัดเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อการส่งออกผ่านมาแม้ว่าชาวสวนทุเรียนพบกับปัญหาด้านการผลิตและการตลาดค่อนข้างมากแต่ทุเรียนยังเป็นไม้ผลที่ให้ผลตอบแทนที่ดีได้ ถ้าสามารถจัดการสวน วางแผนการผลิตและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
==>ลักษณะทั่วไปของพืช ทุเรียนเป็นไม้ผลยืนต้นขนาดใหญ่ชอบอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 25 - 30 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์สูงประมาณ 75 -85 % ดินที่เหมาะสมควรระบายน้ำดีและมีสภาพความเป็นกรดเป็นด่าง (ค่า pH) ประมาณ 5.5 - 6.5 และที่สำคัญควรเลือกแหล่งปลูกที่มีน้ำเพียงพอตลอดช่วงหน้าแล้ง ทุเรียนจะให้ผลผลิตหลังการปลูก 5 - 6 ปี ช่วงอายุที่ให้ผลผลิตสูงประมาณ 10 ปีขึ้นไป ผลผลิตประมาณ 80 - 110 ผล/ต้น หรือประมาณ 240 -320 กก./ตัน/ปี (คิดน้ำหนักเฉลี่ยผลละ 3 กก.) ทุเรียนเป็นไม้ผลที่มีระบบรากหาอาหารตื้นโดยอยู่ลึกจากผิวดินประมาณ 20 -30 เซนติเมตร จึงต้องการช่วงแล้วเพื่อให้เกิดสภาพเครียดก่อนออกดอกไม่นานนัก ต้นทุเรียนที่สมบูรณ์มีใบยอดแก่ ผ่านช่วงแล้งเพียง 10 -14 วัน และมีอากาศหนาวเย็นลงเล็กน้อย ทุเรียนจะออกดอก ระยะพัฒนาของดอก (ระยะไข่ปลา - ดอกบาน) ใช้เวลาประมาณ 55 - 60 วัน ระยะพัฒนาของผล (จากดอกบาน - เก็บเกี่ยว) จะแตกต่างกันในแต่ละพันธุ์ เช่น กระดุม 12 - 13 สัปดาห์ หรือประมาณ 90 วัน ชะนี 15 -16 สัปดาห์ หรือประมาณ 110 วัน หมอนทอง 18 - 19 สัปดาห์ หรือประมาณ 130 วัน อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเก็บรักษาผลผลิต 14 -16 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 85 - 95 % เก็บรักษาทุเรียนได้นานประมาณ 2 สัปดาห์ ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 14 องศาเซลเซียส จะเกิดอาการ chilling injury ฤดูกาลของผลผลิตทุเรียนภาคตะวันออก คือ เมษายน - มิถุนายน และภาคใต้ คือ มิถุนายน - สิงหาคม
==>พื้นที่ส่งเสริม 20 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ระยอง ตราด ปราจีนบุรี อุตรดิตถ์ สุโขทัย และ 14 จังหวัดภาคใต้ แหล่งผลิตที่สำคัญ ได้แก่ จันทบุรี ชุมพร ระยอง นครศรีธรรมราช และตราด
พื้นที่ปลูก
ปี 2540
ปี 2541
พื้นที่ให้ผลผลิตแล้ว
581,096 ไร่
607,009 ไร่
พื้นที่ยังไม่ให้ผลผลิต
272,810 ไร่
253,260 ไร่
พื้นที่ปลูกรวม
853,906 ไร่
860,269 ไร่
==>พันธุ์ที่ส่งเสริม หมอนทอง ชะนี กระดุม สำหรับพันธุ์พื้นเมืองที่ชนะการประกวดและมีคุณสมบัติดีเด่นเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่นก็สามารถส่งเสริมให้ปลุกได้เช่นกัน
==>ต้นทุนการผลิต
ปีแรกที่เริ่มปลูก
2,800 บาท/ไร่
ปีที่ผลผลิตเต็มที่แล้ว
5,700 บาท/ไร่
ผลผลิต
ปี 2540
ปี 2541 (ประมาณการ)
1. ผลผลิตรวมทั้งประเทศ
963,141 ตัน
963,290 ตัน
2. ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่
1,657 กก./ไร่
1,313 กก./ไร่
3. ราคาผลผลิตที่เกษตรขายได้เฉลี่ยตลอดกลางฤดูกาล
20.38 บาท/กก.
22.60 บาท/กก.
4. ปริมาณการใช้ภายในประเทศ
884,632 ตัน
875,813 ตัน
5. ปริมาณและมูลค่าการส่งออก
- ปริมาณ
78,514 ตัน
87,477 ตัน
- มูลค่า
1,736.9 ล้านบาท
2,609 ล้านบาท
==>การปลูก วิธีการปลูก ทำได้ทั้งการขุดหลุมปลูกซึ่งเหมาะกับพื้นที่ค่อนข้างแล้งและยังไม่มีการวางระบบน้ำไว้ก่อนปลูก วิธีนี้ดินในหลุมจะช่วยเก็บความชื้นได้ดีขึ้น แต่ถ้ามีฝนตกชุก น้ำขังรากเน่าและต้นตายได้ง่ายส่วนการปลูกโดยไม่ต้องขุดหลุม (ปลูกแบบนั่งแท่นหรือยกโคก) เหมาะกับพื้นที่ฝนตกชุก วิธีนี้การระบายน้ำดี น้ำไม่ขังโคนต้น แต่ต้องมีการวางระบบน้ำไว้ก่อนปลูก ซึ่งต้นทุเรียนจะเจริญเติบโตเร็วกว่าการขุดหลุม ทั้งนี้จุดเน้นที่สำคัญในการปลูกทุเรียน คือ ควรใช้ต้นกล้าที่มีระบบรากดี ไม่ขดงอในถุง แต่ถ้าใช้ต้นกล้าขนาดใหญ่ก็ให้ตัดดินและรากที่ขดหรือพันตรงก้นถุงออก ระยะปลูก เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีทรงพุ่งขนาดใหญ่ เจริญเติบโตเร็ว การควบคุมขนาดทรงพุ่มทำได้ยาก ควรใช้ระยะปลูกค่อนข้างห่าง ซึ่งระยะปลูกที่แนะนำ คือ 8 - 10 x 8 - 10 เมตร สำหรับสวนขนาดใหญ่ที่จะใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่แทนแรงงาน ควรเว้นระยะระหว่างแถวให้ห่างพอที่เครื่องจักรกลจะเข้าไปทำงานแต่ให้ระยะระหว่างต้นชิดขึ้น จำนวนต้นต่อไร่ ประมาณ 20 ต้น/ไร่
==>การดูแลรักษา การใส่ปุ๋ย
1. เพื่อบำรุงต้นหลังเก็บเกี่ยว ปุ๋ยอินทรีย์
20 - 50 กก./ตัน
ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16
1 - 3 กก./ตัน
2. เพื่อส่งเสริมการออกดอก (ช่วงปลายฝน)
ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 หรือ 9-24-24
2 - 3 กก./ตัน
3. เพื่อบำรุงผล (หลังติดผล 3 - 4 สัปดาห์)
ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 หรือ 12-12-17+2
1 - 2 กก./ตัน
4. เพื่อเพิ่มคุณภาพเนื้อและความเข้มของสีเนื้อ (หลังติดผล 7 - 8 สัปดาห์)
ปุ๋ยเคมีสูตร 0-0-50
1 - 2 กก./
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น